ข่าวเด่นวันนี้

ไฮโซสาว เปิดคลิปลูกดีเจดัง แฉถูกซ้อมกว่า 2 ปี ไม่เว้นแม้ตั้งท้อง พ่อแม่สามีรู้แต่ไม่ช่วย

ไฮโซสาวร้องเพจสายไหมต้องรอด โดนอดีตสามีซึ่งเป็นลูกชายของดีเจชื่อดัง ทำร้ายร่างกายนานกว่า 2 ปี เลิกกันแล้วยังบุกบ้าน ขู่ฆ่ายกครัว

วานนี้ (22 ส.ค.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ Survive – สายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวธัญญ์สมินธิ์ หรือ เบลล์ ไฮโซสาว เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือ หลังถูกอดีตสามี นายชวิศ ลูกชายคนเล็กของดีเจชื่อดัง ทำร้ายร่างกายโดยการซ้อมตบตีมานานกว่า 2 ปี

พร้อมโพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ คลิปวงจรปิดขณะที่อดีตสามีบุกไปด่าและพยายามพังประตูเพื่อจะเข้ามาในบ้าน จนคนที่เห็นเหตุการณ์ต้องเข้ามาช่วยห้าม พร้อมภาพนิ่งร่องรอยบาดแผลตามร่างกายที่เคยโดนทำร้าย

โดย เบลล์ ไฮโซสาว เล่าว่า คบหาเป็นสามีภรรยากับนายชวิศ ลูกชายดีเจชื่อดัง เป็นเวลา 2 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบหาเป็นสามีภรรยากัน ถูกสามีทำร้ายร่างกายทุบตีบ่อยครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงที่เริ่มคบกันตั้งแต่ 6 เดือนแรก ตนเองก็เริ่มโดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนนั้นก็ตัดสินใจเลิกรากัน

แต่พอแยกกัน ตนเองมารู้ตัวว่าท้องกับนายชวิศ จึงให้โอกาสให้นายชวิศได้แสดงความเป็นพ่อ กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่นายชวิศก็ยังทำร้ายร่างกายตนเองเหมือนเดิม แม้ตอนที่ตนเองยังอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ อุ้มท้องลูกของนายชวิศเองก็ตาม ก็ยังถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก

ซ้ำช่วงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ นายชวิศก็ยังไปออกรายการเกมโชว์ ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับการหาคู่ของคนโสด ซึ่งทำให้ตนเองเสียใจอย่างมาก และเมื่อมีการพูดถึงก็จะโดนทำร้ายร่างกายเสมอ

ตนเองเคยเข้าแจ้งความกับตำรวจ ทั้ง สน.โคกคราม สน.ทุ่งมหาเมฆ และล่าสุดที่ สภ.ปากเกร็ด หลังจากที่นายชวิศ บุกมาที่บ้านตนเองซึ่งเป็นร้านขาย ถุงคลุมเสื้อ ถุงคลุมเสื้อกันฝุ่น และพยายามพังประตูเพื่อจะเข้ามาในบ้าน โดยมีพ่อและแม่ของตัวนายชวิศเดินทางร่วมมาด้วย แต่ก็ไม่สามารถห้ามอะไรได้

ไฮโซสาว ยังระบุอีกว่า ในหลายๆ ครั้งที่มีการทุบตีตนเอง พ่อและแม่ของฝ่ายชายก็อยู่และรู้เห็นด้วยเสมอ แต่ก็ไม่เคยช่วยเหลืออะไรตนเองได้แม้แต่ครั้งเดียว

ส่วนสาเหตุที่ทำร้ายร่างกายตนเอง จากที่เคยสังเกต และตัวอดีตสามีเคยรับสารภาพก็คือปัญหาเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด เพราะตนเองเคยเจอที่จมูกฝ่ายชายมีผงสีขาวเกาะอยู่ และตัวฝ่ายชายก็มักมีอาการพูดคนเดียว ตาขวาง หงุดหงิดในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรืออยู่ๆ ไม่พอใจก็ใช้ความรุนแรงขึ้นมาเลย

ซ้ำยังเคยขู่จะฆ่าตนเองและครอบครัว รวมถึงลูกสาวของคนเองที่เคยมีกับครอบครัวเก่า ก็ถูกนายชวิศข่มขู่เวลาที่คลุ้มคลั่งหลายๆ ครั้ง ก่อนที่ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้นายชวิศได้บุกมาคลุ้มคลั่งอีกครั้ง หลังจากที่แยกบ้านกันอยู่มาได้ระยะหนึ่ง โดยอ้างสาเหตุว่าตนเองไม่ให้เข้าไปพบลูก ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง

ในครั้งนี้จึงตัดสินใจลุกขึ้นสู้และขอเดินหน้าเอาผิดกับนายชวิศ เพราะคิดว่าครอบครัวของอดีตสามีไม่สามารถดำเนินการได้เอง และยังมีการเข้าข้างลูกชายเสมอมา จึงตัดสินใจเดินทางเข้าขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด

เบื้องต้น นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้ประสาน นายธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เตรียมพาผู้เสียหายเข้าพบ ในวันนี้ (22 ส.ค.) เวลา 10.00 น.

เพื่อร้องเรียนให้กระทรวงยุติธรรม ช่วยประสาน ผบ.ตร. ตรวจสอบว่าเหตุใดการแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในแต่ละครั้งที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายคดีจึงไม่คืบหน้า ส่งผลให้ผู้เสียหายต้องถูกทำร้ายซ้ำๆ เรื่อยมา และให้ผู้เสียหายยื่นเรื่องเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญาด้วย