ข่าวเด่นวันนี้

ตร.รุดช่วยเหยื่อฆาตกรต่อเนื่อง แชทลวงสาวกักขังทารุณโหด!

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ต.ทศพล กิติลาภ , พ.ต.ต.แดนรบ สมัยชูเกรียติ์ สว.กก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. นำตัวนายธนเดช หรือรุจ แก้วช่วง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/4 ม.2 ต.ลิดล อ.เมืองยะลา จ.ยะลา มาส่งให้ พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สุขแก้ว สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง ก่อนที่จะนำตัวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา ตร.ชุดจับกุมได้ร่วมกันจับกุมตัว นายธนเดช หรือรุจ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญาตลิ่งชันที่ 473/2565 ลงวันที่ 29 กันยายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย ในห้องพักในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง (ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง)

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค.65 เวลาประมาณ 20.40 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งว่าพบศพ นางสาวกมลเนตร ละมุล อายุ 26 ปี พนักงานบิรษัทจำหน่ายกล่องผลไม้ กล่องใส่ผลไม้ เสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่า เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ สภาพศพมีบาดแผลสาหัส เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย กะโหลกศีรษะแตก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง กระดูกสันหลังหัก กระดูกซี่โครงหัก ซึ่งต่อมาจากการสืบสวน ทราบว่านายธนเดชฯ ซึ่งเป็นแฟนของผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุ โดยนายธนเดชฯ รู้จักกับนางสาวกมลเนตรฯ ผ่านทางแอพหาคู่ จากนั้นพูดคุยกันต่อผ่านทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กแมสเซนเจอร์ นายธนเดชฯ ได้ชักชวนให้นางสาวกมลเนตรฯ มาพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าย่านอรุณอมรินทร์ โดยนายธนเดชฯ มีพฤติกรรมทำร้าย นางสาวกมลเนตรฯ ด้วยการซ้อม ทุบตี และกระทืบ ภายในบ้านเช่าดังกล่าว และกักขังไว้ในบ้าน จนกระทั่งนางสาวกมลเนตรฯ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยก่อนเกิดเหตุ นายธนเดชฯ และนางสาวกมลเนตรฯ รู้จักกันไม่ถึง 1 เดือน จากนั้นนายธนเดชฯ จึงได้หลบหนีไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจ กก.6 บก.ป. สืบสวนทราบว่านายธนเดชฯ หลบหนีมาอยู่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง และขณะนั้นมีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อ ถูกล่อลวงมากักขังอยู่ในห้องพักของนายธนเดชฯ อีกด้วย จึงได้วางแผนเข้าทำการช่วยเหลือและจับกุม โดยขณะเข้าทำการจับกุม พบนางสาวเนย (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดลำพูน อยู่ในห้องพักดังกล่าว ในสภาพถูกทำร้าย บาดเจ็บมีรอยฟกช้ำตามร่างกายจำนวนมาก ใบหน้าบวมช้ำจนผิดรูป จึงได้เข้าการจับกุมนายธนเดชฯ และช่วยเหลือนางสาวเนยฯ ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพัทลุง จากนั้นควบคุมตัวนายธนเดชฯไปบันทึกลงประจำวันที่ สภ.เมืองพัทลุง หลังจากนั้นได้นำตัว ส่ง พงส.สน.บางยี่ขัน กรุงเทพฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทางด้านนางสาวเนย (นามสมมุติ) เมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าทำการช่วยเหลือ ได้ยกมือพนมขึ้นไหว้ พร้อมกล่าวว่า “นึกว่าจะต้องตายในห้องนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดออกมาได้” โดยได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งน้ำตาว่า ตนรู้จักกับนายธนเดชฯ เมื่อประมาณต้นเดือน ส.ค.65 ทางแอพหาคู่ จากนั้นพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊คแมสเซนเจอร์ โดยแชทคุยกันประมาณ 1 เดือน จากนั้นนายธนเดชฯ ได้ลวงให้ตน เดินทางมาหาที่ จ.พัทลุง ด้วยการบอกว่ารักตนเองมาก และอยากพบเจอ ประมาณต้นเดือน ก.ย.65 ตนจึงได้นั่งรถไฟมาจาก จ.ลำพูน มาที่กรุงเทพฯ จากนั้นนั่งรถไฟต่อจากกรุงเทพฯ มายัง จ.พัทลุง เมื่อพบกันครั้งแรก ตนกลับต้องตกใจกับพฤติกรรมของนายธนเดชฯ เนื่องจากนายธนเดชฯ ได้พาตนไปทานข้าวมันไก่ในตลาดสด

อย่างไรก็ตามในขณะที่นั่งทานอยู่นั้น นายธนเดชฯ ได้แสดงอาการหึงหวง โดยกล่าวหาว่าตนไปมองชายอื่นขณะทานข้าว จึงนำจานใส่ข้าวมันไก่ที่ทานอยู่ปาใส่ใบหน้าของตน และใช้ถ้วยน้ำซุปเทราดศีรษะ พร้อมทั้งใช้กำลังตบตีตนโดยไม่สนใจบุคคลอื่นในตลาด และใช้กำลังฉุดกระชากตน มาที่ห้องพักในแมนชั่นที่นายธนเดชฯ เช่าอาศัยอยู่ จากนั้นได้กักขังตนไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้ติดต่อกับผู้ใด และใช้กำลังทำร้ายร่างกายเรื่อยมา อีกทั้งนายธนเดชฯ ยังเสพยาบ้า เมื่อมีอาการเมายาก็จะลงมือทำร้ายตนหนักขึ้นไปอีก ตนต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ภายในห้องเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน และไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือและจับกุมนายธนเดชฯ ในครั้งนี้

จากการ สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุม นายธนเดชฯ ให้การว่า ตนเคยประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่หลังจากพ้นโทษออกมาก็ไม่ได้ประกอบอาชีพ เงินที่ใช้จ่ายในแต่ละวันได้มาจากการเล่นพนัน และขอจากหญิงสาวที่แชทคุยด้วย โดยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ลงมือทำร้ายทั้งนางสาวกมลเนตรฯ จนถึงแก่ความตาย และ นางสาวเนย (นามสมมุติ) จนได้รับบาดเจ็บจริง สาเหตุที่กระทำกับเหยื่อแต่ละคน นายธนเดชฯ อ้างว่าตนไม่ได้ตั้งใจลงมือ แต่ทำไปเนื่องมาจากความรักและความหึงหวง ตนควบคุมอารมณ์ไม่ได้จึงพลั้งมือทำร้าย จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าที่ผ่านมา นายธนเดชฯ มีพฤติกรรมแชทคุยกับหญิงสาว โดยจะบอกว่ารักและขอนัดเจอ เมื่อผู้หญิงหลงเชื่อ จะพามากักขังที่ห้องพัก จากนั้นจะลงมือทำร้ายร่างกายเหยื่อจนบาดเจ็บสาหัส โดยเชื่อว่าอาจมีเหยื่อรายอื่นที่ถูกกระทำในลักษณะนี้อีกหลายราย ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป

สำหรับนายธนเดชฯ มีประวัติเคยก่อเหตุ หลายคดีทั้งคดียาเสพติด และคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ได้แก่

  • พ.ศ.2557 ถูกดำเนินคดีข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สน.พระราชวัง
  • พ.ศ.2558 ถูกดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สน.บางยี่ขัน
  • พ.ศ.2559 ถูกดำเนินคดีข้อหา ฆ่าผู้อื่น โดยใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต ในพื้นที่ สน.บางยี่เรือ โดย ถูกศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี 16 เดือน ต่อมาได้รับการลดหย่อนโทษ ถูกจำคุกจริง 5 ปี 10 เดือน และพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2564