เปิดใจเจ้าของบ้าน ถูกยกเค้า สูญกว่า1ล้าน เหลือแต่ซาก แจงไม่ได้ปล่อยบ้านทิ้งหลังมีคนคอมเมนต์ว่าบ้านร้าง แม่ป่วยต้องไปรักษาที่กทม. ยืนยันเข้ามาดูบ้านตลอด จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพ บ้านถูกขโมยยกเค้าไปหมดแม้แต่รั้วบ้านก็เอาไป เหตุเกิดเมื่อปลายปี 2564 แจ้งความแล้วยังไม่คืบ ทั้งที่มีพยานหลักฐาน โดยตำรวจบอกว่าต้องเป็นเหตุซึ่งหน้า แถมยังแนะนำด้วยว่า ถ้าไม่อยากให้ขโมยมา ให้ขายที่ดิน ตำรวจจะหาคนซื้อให้ เหตุเกิดในพื้นที่ ม.6 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (อ่าน : รั้วก็ไม่เหลือ! บ้านถูกยกเค้า แจ้งความไม่คืบ ตร.ตอบพีกทุกคำ โจรมาจะๆยังจับไม่ได้ ) ล่าสุด วันที่ 8 ก.ค. 65 น.ส.มานิตา อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน พาผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบภายในบ้านที่ปลูกอยู่ติดกับถนนสายโรจนะ ขามุ่งหน้าอำเภอวังน้อย เป็นบ้านลักษณะปูนชั้นเดียว มีพื้นที่หน้าบ้าน รั้วถูกทุบเอาสแตนเลสไป ข้าวของภายในบ้านและรอบบ้านถูกรื้อค้น แอร์ถูกถอดเอาไป ประตูหน้าต่าง ถูกคนร้ายถอดหาย นอกจากนี้ยังพบว่าหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ติดตั้งอยู่ที่เสาไฟฟ้าหน้าบ้านถูกคนร้ายขโมยไปด้วย นางสาวมานิตา กล่าวว่า บ้านหลังนี้แม่ของตนและครอบครัวสร้างขึ้น เพื่อให้แม่มาอยู่อาศัยและเปิดเป็นตลาดนัดด้านหน้าบ้านเนื่องจากติดกับถนนใหญ่ โดยมีคนมาคอมเมนต์ว่าปล่อยบ้านร้าง ยืนยันว่าไม่จริง ช่วงแรกต้นปี 2565 แม่มาพักอาศัยอยู่ ต่อมาแม่ป่วยต้องรักษาตัวในกรุงเทพ บ้านจึงไม่มีใครมาอยู่ แต่จะเข้ามาดูบ้านตลอด จนประมาณเดือน ก.พ. พบว่า ข้าวของในบ้านสูญหายหลายรายการ จึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.บางปะอิน จากนั้นบ้านถูกคนร้ายเอามาขโมยของอีกหลายครั้ง ตลอดระยะเวลาจนเหลือสภาพบ้านอย่างที่เห็น ช่วงหลังมีรปภ.ของหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กันคอยแจ้ง ตลอดว่ามีคนร้ายเข้าขโมยของแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่มาไม่ทันคนร้าย ระยะหลังจะเป็นกลุ่มที่เก็บของเก่า จึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.บางปะอิน จากนั้นบ้านถูกคนร้ายเอามาขโมยของอีกหลายครั้ง ตลอดระยะเวลาจนเหลือสภาพบ้านอย่างที่เห็น ช่วงหลังมีรปภ.ของหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กันคอยแจ้ง ตลอดว่ามีคนร้ายเข้าขโมยของแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่มาไม่ทันคนร้าย ระยะหลังจะเป็นกลุ่มที่เก็บของเก่า รู้สึกหมดหวังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก จนตอนนี้ไม่กล้าเข้ามาดูบ้านของตนเองแล้วกลัวมาเจอคนร้ายแล้วจะเกิดอันตราย จริงเราไม่ได้ปล่อยทิ้งบ้านแบบนี้ บ้านเราสวยงามอยู่อาศัยได้ แต่มาถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินไปจนหมด คิดรวมมูลค่าทรัพย์สินแล้ว ประมาณ กว่า 1 ล้านบาท เพราะภายในบ้าน ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าทีวีตู้เย็น แอร์ อุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องมือช่างแและสิ่งของที่อยู่ใน ซองไปรษณีย์ ซองไปรษณีย์พลาสติก รวมที่ไปแจ้งความเอาไว้กว่า 60 รายการ
